ขอบเขตของบริหารรัฐกิจ (Scope of public administration)
ขอบเขตของบริหารรัฐกิจนั้น หมายถึงการให้ความสนใจที่สำคัญของบริหารรัฐกิจในฐานะที่กิจกรรม (Activity) และในฐานะที่เป็นวิชาการ (discipline)
มุมมองดั้งเดิม (The traditional view)
นักวิชาการในยุคดั้งเดิมจำกัดขอบเขตของบริหารรัฐกิจอยู่กับฝ่ายบริหารเท่านั้น ในความหมายอย่างแคบนี้ บริหารรัฐกิจครอบคลุม“Primarily the organization, personnel, practices and procedures essential to effective performance of the civilian functions entrusted to the executive branch of government” ดังนั้น บริหารรัฐกิจไม่ได้มีบทบาทใดๆในการหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายตุลาการ มุมมองดังเดิมนี้มีการจำกัดอย่างมากในฐานะที่เป็นการอธิบายขอบเขตของบริหารรัฐกิจ
มุมมองสมัยใหม่ (The modern view)
นักวิชาการสมัยใหม่ได้ขยายขอบเขตของบริหารรัฐกิจไปสู่ทั้งสามฝ่ายของรัฐบาล ตามความคิดของนักวิชาการกลุ่มนี้ บริหารรัฐกิจ คือ รัฐบาลในภาคปฏิบัติทั้งหมด (whole government in action) พวกเขากล่าวว่า กิจกรรมต่าง ๆ ของฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายตุลาการส่งผลกระทบและกำหนดการปฏิบัติการของการบริหารรัฐกิจอย่างสำคัญ ในระบอบประชาธิปไตย นโยบายเชิงการบริหารที่สำคัญทั้งหมดนั้นออกมาจากฝ่ายนิติบัญญัติในรูปของกฎหมาย ฝ่ายนิติบัญญัติยังคงควบคุมเหนือฝ่ายบริการด้วยการมองว่านโยบายต่าง ๆ ถูกนำไปปฏิบัติตามที่มันตั้งเป้าหมายเอาไว้หรือไม่ ขณะที่ฝ่ายตุลาการมีอำนาจที่จะยับยั้งการกระทำที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ผิดกฎหมายและการกระทำที่เป็นไปตามอำเภอใจ ในการดำเนินการดังกล่าวนี้ ฝ่ายตุลาการจะกำหนดว่ารูปแบบอะไรของบริการสาธารณะที่สามารถถูกจัดหาภายใต้เงื่อนไขแบบไหน ดังนั้น F.A. Nigro และ L.G. Nigroได้มาถึงข้อสรุปที่ชัดเจนที่ว่า “ทั้งสามฝ่ายของรัฐบาลเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาและแนวปฏิบัติของบริหารรัฐกิจ” ซึ่งมุมมองนี้เป็นความเป็นจริงมากกว่า
1. ขอบเขตของบริหารรัฐกิจในฐานะที่เป็นกิจกรรม (scope of public administration as an activity) บริหารรัฐกิจเป็นผู้รับใช้ของรัฐบาลในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ดังนั้น ในฐานะที่เป็นกิจกรรม ขอบเขตของบริหารรัฐกิจจึงไม่ได้น้อยไปกว่าขอบเขตกิจกรรมของรัฐ ในรัฐรัฐสวัสดิการสมัยใหม่ประชาชนคาดหวังสิ่งต่าง ๆ จำนวนมาก-บริการและการปกป้องที่หลากหลายจากรัฐบาล ผลก็คือ การบริหารรัฐของรัฐสวัสดิการจัดหาบริการทางด้านสวัสดิการและความมั่นคงทางสังคมจำนวนมากให้แก่ประชาชน นอกจากนี้ การบริหารรัฐกิจยังต้องจัดการรัฐวิสาหกิจ (state-owned enterprise) การบริหารรัฐกิจในรัฐสวัสดิการเป็นกิจการที่ค่อนข้างซับซ้อน มันครอบคลุมพื้นที่และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ถูกบริหารโดยนโยบายสาธารณะ มันรวมถึงการปฏิบัติการทั้งหมดของรัฐบาลตั้งแต่การใช้ประโยชน์จากพื้นที่ในอวกาศจนถึงการกวาดถนน จึงไม่เป็นที่สงสัยว่า การศึกษาของรัฐบาลเป็นอาหารหลัก (staple food) ของบริหารรัฐกิจ แต่บริหารรัฐกิจยังคงคอบคลุมการปฏิบัติการและกิจกรรมทั้งหมดของสถาบันต่าง ๆ ในภาคการผลิต (corporate sector) ที่รัฐบาลเป็นผู้ให้เงินสนับสนุน ความใหญ่โตของกิจกรรมของรัฐสวัสดิการสมัยใหม่หมายถึงกิจกรรมเชิงการบริหารที่หลีกเลี่ยงไม่ได้มากขึ้น, หน่วยงานและเจ้าหน้าที่เชิงการบริหารมากขึ้น ดังนั้น ขอบเขตของบริหารรัฐกิจในฐานะที่เป็นกิจกรรมจึงกว้างขวางอย่างมากในรัฐสมัยใหม่
2. ขอบเขตของบริหารรัฐกิจในฐานะที่เป็นวิชาการ (scope of public administration as a discipline) โดยการเป็นวิชาการแล้ว เราหมายถึงสาขาวิชาการของการศึกษา (subject of study) (เช่น รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์) ขอบเขตของบริหารรัฐกิจในฐานะที่เป็นวิชาการประกอบไปด้วยพื้นที่ต่าง ๆ ดังนี้
a. กระบวนการของ POSDCoRB (the POSDCoRBprocess)หลักวิชาการของบริหารรัฐกิจให้ความสนใจกับกระบวนการของการบริหาร Luther Gulick ได้สร้างตัวย่อ POSDCoRBเพื่อที่จะสรุปกระบวนการการบริหารที่หลากหลายPOSDCoRB ประกอบไปด้วยตัวอักษรตัวแรกของหน้าที่การบริหาร 7 หน้าที่ คือ (1) Planning (2) Organizing (3) Staffing (4) Directing (5) Co-ordinating (6) Reporting และ (7) Budgeting โดย Gulick เชื่อว่า องค์ประกอบทางด้านหน้าที่การบริหารของการทำงานของหัวหน้าฝ่ายบริหารทั้ง 7 องค์ประกอบเหล่านี้ได้สร้างขอบเขตของบริหารรัฐกิจขึ้นมา
มุมมอง POSDCoRB ได้ความเป็นเอกภาพ ความแน่นอน และความสามารถในการจำกัดความแก่การศึกษาบริหารรัฐกิจ มันได้สร้างการศึกษาบริหารรัฐกิจให้มีความเป็นระบบมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เทคนิค POSDCoRB ไม่สามารถเป็นประเด็นเดี่ยวๆของบริหารรัฐกิจหรือแม้กระทั่งเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของมัน พวกเขาล้มเหลวในการให้ความรู้เกี่ยวกับสาขาของกิจกรรมเชิงการบริหารที่หลากหลายที่เทคนิคเหล่านี้จะถูกนำไปประยุกต์ใช้ ส่วนใหญ่ของการบริหารให้ความสนใจกับนโยบายและแผนงานต่าง ๆ แต่ POSDCoRB ไม่ได้บรรจุการอ้างอิงถึงการสร้างนโยบายหรือการนำนโยบายไปปฏิบัติ ด้วยเหตุผลนี้จึงให้ POSDCoRB ห่างไกลออกจากความจริง แม้ว่าPOSDCoRB จะเป็นการพัฒนาที่มีประโยชน์และมีความจำเป็นในทศวรรษที่ 30 แต่มันก็ได้รับการพิสูจน์แล้วประว่ามีข้อจำกัดอย่างมากในการอธิบายขอบเขตของสาขาที่มีความเป็นพลวัตรของบริหารรัฐกิจในปัจจุบันได้ครบถ้วน
b. การพิจารณาในภาคส่วนที่สำคัญ (Substantive concerns) การบริหารรัฐกิจไม่ได้จัดการเฉพาะกระบวนการเท่านั้น แต่ยังจัดการกับประเด็นในภาคส่วนที่สำคัญของการบริหาร เช่น การป้องกันประเทศ การศึกษา สุขภาพ สวัสดิการและความมั่นคงของสังคม การเกษตร เป็นต้น ในพื้นที่ในภาคส่วนที่สำคัญของการบริหารนี้ เทคนิค POSDCoRB ได้ถูกนำไปประยุกต์ใช้ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องศึกษาสาขาในภาคส่วนที่สำคัญของการบริหารควบคู่ไปกับเทคนิคPOSDCoRB ดังนั้น การศึกษาบริหารรัฐกิจควรจะเกี่ยวข้องกับทั้งกระบวนการและการพิจารณาในภาคส่วนที่สำคัญ
c. ทฤษฎีองค์การ (Organization theory) ขอบเขตการศึกษาทฤษฎีองค์การเกี่ยวข้องกับโครงสร้างที่เป็นทางการ (formal structure) การทำหน้าที่ภายในองค์การ (internal functioning)และผลการปฏิบัติงานขององค์การ (organization performance) สิ่งแวดล้อมภายนอกองค์การ (external environment) และพฤติกรรมของกลุ่มและปัจเจกบุคคลภายในองค์การ
d. การบริหารงานบุคคลภาครัฐ (public personnel administration) ในประเด็นนี้เกี่ยวข้องกับการวางแผนกำลังคน (manpower planning) การสร้างระบบการจำแนกตำแหน่ง (position-classification system) ครอบคลุมประเด็นสำคัญของการสรรหา (recruitment) การฝึกอบรม ขนาดของการจ่ายค่าตอบแทน (pay-scale) การเลื่อนตำแหน่ง (promotion) การเกษียณ (retirement) ความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง เป็นต้น ความมีประสิทธิภาพของการบริหารขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของบุคคลที่จ้างเข้ามาทำงาน
e. การบริหารการคลังภาครัฐ (public finance administration) มันรวมการเตรียมกระบวนการ การประกาศใช้กฎหมาย การบริหารงบประมาณ การบัญชีและการตรวจสอบทางการเงินทั้งหมด เพรากิจกรรมทางด้านการบริหารทั้งหมดนั้นจะเกี่ยวข้องเงิน จำนวนของกิจกรรมทางการบริหารขึ้นอยู่ขนาดของเงินที่รัฐบาลสามารถหามาได้และการใช้จ่ายเงินเหล่านั้นอย่างเหมาะสม
f. บริหารรัฐกิจเปรียบเทียบ (comparative public administration) การศึกษาการบริหารข้ามชาติ และข้ามวัฒนธรรมได้สร้างพื้นที่ที่สำคัญของความเชี่ยวชาญพิเศษภายในหลักการของบริหารรัฐกิจ
g. การบริหารการพัฒนา (development administration) เกี่ยวข้องกับการบริหารแผนและแผนงานด้านการพัฒนาที่ดำเนินการโดยประเทศกำลังพัฒนา ลักษณะสำคัญของการบริหารการพัฒนาคือการพัฒนาการบริหาร เช่น การปรับปรุงศักยภาพของการบริหารกิจกรรมด้านการพัฒนา
h. สิ่งแวดล้อมการบริหาร (administrative ecology) มันเกี่ยวข้องกับปฏิสัมพันธ์ระหว่างการบริหารรัฐกิจและสภาพแวดล้อมทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมสังคมของมัน เป็นสาขาที่เกิดขึ้นมาใหม่ของการศึกษาบริหารรัฐกิจ
i. การวิเคราะห์นโยบาย (public policy analysis) สาขาย่อยของการบริหารรัฐกิจที่กำลังพัฒนาขึ้นมานี้ศึกษากระบวนการของการกำหนดนโยบาย, เนื้อหาของนโยบาย การนำนโยบายไปปฏิบัติ และผลลัพธ์นโยบาย
ขอบเขตของบริหารรัฐกิจครอบคลุมแต่ละประเด็นในฐานะที่เป็นวิธีการ (methods) และแนวทาง (approach) ต่อการศึกษาบริหารรัฐกิจ แนวคิดในการบริหาร (เช่น ลำดับชั้น เอกภาพของคำสั่ง ขอบข่ายการควบคุม) และความสามารถในการตรวจสอบได้ในการบริหาร
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://www.gotoknow.org/posts/571497
บล็อกเรื่อง บริหารรัฐกิจ PUBLIC ADMINISTRATION (โดย กลุ่มนางสาวสุพิน หะนุ) หัวข้อ ขอบเขตของบริหารรัฐกิจ (Scope of public administration) มีสาระประโยน์ ดีมากค่ะ...ขอบคุณมากนะค่ะ
ตอบลบมีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ดีครับ
ตอบลบมีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ดีครับ
ตอบลบขอบเขตของบริหารรัฐกิจ (Scope of public administration) เข้าใจง่ายค่ะ (มัญชุพร)
ตอบลบบริหารรัฐกิจ PUBLIC ADMINISTRATION (โดย กลุ่มนางสาวสุพิน หะนุ) ต้องยกนิ้วให้เลยครับ (อรรถกฤต ทางไธสง)
ตอบลบบริหารรัฐกิจ PUBLIC ADMINISTRATION (โดย กลุ่มนางสาวสุพิน หะนุ) ต้องยกนิ้วให้เลยครับ (อรรถกฤต ทางไธสง)
ตอบลบบล็อกเรื่อง บริหารรัฐกิจ PUBLIC ADMINISTRATION (โดย กลุ่มนางสาวสุพิน หะนุ) หัวข้อ ขอบเขตของบริหารรัฐกิจ (Scope of public administration) มีสาระประโยน์
ตอบลบบล็อกเรื่อง บริหารรัฐกิจ PUBLIC ADMINISTRATION (โดย กลุ่มนางสาวสุพิน หะนุ) หัวข้อ ขอบเขตของบริหารรัฐกิจ (Scope of public administration) มีสาระประโยน์ ดีมากค่ะ...ขอบคุณมากนะค่ะ
ตอบลบบล็อกเรื่อง บริหารรัฐกิจ PUBLIC ADMINISTRATION (โดย กลุ่มนางสาวสุพิน หะนุ) หัวข้อ ขอบเขตของบริหารรัฐกิจ (Scope of public administration) มีสาระประโยน์ ดีมากค่ะ...ขอบคุณมากนะค่ะ
ตอบลบบล็อกเรื่อง บริหารรัฐกิจ PUBLIC ADMINISTRATION (โดย กลุ่มนางสาวสุพิน หะนุ) หัวข้อ ขอบเขตของบริหารรัฐกิจ (Scope of public administration) มีสาระประโยน์และให้ความรู้ดีค่ะ
ตอบลบบล็อกเรื่อง บริหารรัฐกิจ PUBLIC ADMINISTRATION (โดย กลุ่มนางสาวสุพิน หะนุ) หัวข้อ ขอบเขตของบริหารรัฐกิจ (Scope of public administration) มีสาระประโยน์และให้ความรู้ดีค่ะ
ตอบลบขอบเขตของบริหารรัฐกิจ (Scope of public administration) เข้าใจง่ายค่ะ
ตอบลบขอบเขตของบริหารรัฐกิจ (Scope of public administration) เข้าใจง่ายค่ะ
ตอบลบขอบเขตของบริหารรัฐกิจ (Scope of public administration)ดีครับ(ประสิทธิ์ พูลเจริญ)
ตอบลบบริหารรัฐกิจ PUBLIC ADMINISTRATION (โดย กลุ่มนางสาวสุพิน หะนุ) หัวข้อ ขอบเขตของบริหารรัฐกิจ (Scope of public administration) มีสาระประโยน์ ดีมากค่ะ...สามารถไปเพิ่มเติมความรู้ได้
ตอบลบขอบเขตของบริหารรัฐกิจ (Scope of public administration)ดีครับ(ประสิทธิ์ พูลเจริญ)
ตอบลบขอบเขตของบริหารรัฐกิจ (Scope of public administration)ดีค่ะ (มัญชุพร)
ตอบลบขอบเขตของบริหารรัฐกิจ (Scope of public administration)มีสาระค่ะ (มัญชุพร)
ตอบลบขอบเขตของบริหารรัฐกิจ (Scope of public administration)ดีครับ(ประสิทธิ์ พูลเจริญ)
ตอบลบขอบเขตของบริหารรัฐกิจ (Scope of public administration)ดีค่ะ(มัญชุพร)
ตอบลบฃล็อคบริหารรัฐกิจ PUBLIC ADMINISTRATION (โดย กลุ่มนางสาวสุพิน หะนุ) หัวข้อ ขอบเขตของบริหารรัฐกิจ (Scope of public administration) สามารถนำไปเพิ่มเติมความรู้ได้
ตอบลบบล็อคบริหารรัฐกิจ PUBLIC ADMINISTRATION (โดย กลุ่มนางสาวสุพิน หะนุ) หัวข้อ ขอบเขตของบริหารรัฐกิจ (Scope of public administration) สามารถนำไปเพิ่มเติมความรู้ได้กระกอบการเรียนเพิ่มเติม
ตอบลบบล็อคบริหารรัฐกิจ PUBLIC ADMINISTRATION (โดย กลุ่มนางสาวสุพิน หะนุ) หัวข้อ ขอบเขตของบริหารรัฐกิจ (Scope of public administration) สามารถนำไปเพิ่มเติมความรู้ได้ประกอบการเรียนเพิ่มเติม
ตอบลบบล็อคบริหารรัฐกิจ PUBLIC ADMINISTRATION (โดย กลุ่มนางสาวสุพิน หะนุ) หัวข้อ ขอบเขตของบริหารรัฐกิจ (Scope of public administration) ดีคะ
ตอบลบบล็อคบริหารรัฐกิจ PUBLIC ADMINISTRATION (โดย กลุ่มนางสาวสุพิน หะนุ) หัวข้อ ขอบเขตของบริหารรัฐกิจ (Scope of public administration เนื้อหาน่าสนใจดี
ตอบลบขอบเขตของบริหารรัฐกิจ (Scope of public administration)ดีครับ(ประสิทธิ์ พูลเจริญ)
ตอบลบ